ข้อแนะนำสำหรับคนเล่นกล้าม

ข้อแนะนำสำหรับคนเล่นกล้าม

       ข้อแนะนำสำหรับคนเล่นกล้าม ถ้า 3 ชั่วโมงในโรงยิม คุณเล่น weight training เน้นอกกับแขน มากเกินไป แต่ขากับหลังแทบจะไม่ได้เล่นเลย ?  เล่นคาร์ดิโอ มากเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ กินอาหารไม่พอเพียงกับความต้องการ ?  ถ้านี่คือสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ เพราะนี่คือวิธีที่ผิด ที่ทำให้กล้ามเนื้อคุณไม่พัฒนาเลยสักที !!!!  มาดูวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้กัน เพื่อจะนำคุณไปให้ถูกทาง และมีกล้ามใหญ่สมตามที่คุณความปรารถนาครับ เริ่มต้นด้วยการ ทำความรู้จักกับธรรมชาติของกล้ามเนื้อว่ามันโตได้อย่างไร - กล้ามเนื้อจะโตหลังจากคุณยก weight หนักๆ (เท่าที่คุณจะทำได้โดยรักษาท่าการเล่นได้ถูกต้อง)  - ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูตัวเอง เพราะระหว่างที่คุณยก Weight กล้ามเนื้อจะทำงานหนักจนถึงขีดสุดแล้วเกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ (กระบวนการนี้ไม่ใช่ฉีกเพราะบาดเจ็บ แต่มันฉีกขาดเพื่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ)  - เพื่อซ่อมแซมส่วนที่ฉีกขาด ร่างกายต้องการอาหารและเวลาผักผ่อนที่เพียงพอ ร่างกายจะซ่อมแซมด้วยการเพิ่มกล้ามเนื้อเข้ามาแทนที่ จึงทำให้กล้ามเนื้อมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น และเป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นที่มาของกล้าม ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำที่จะทำให้คุณเข้าใจและพัฒนากล้ามเนื้อคุณให้ดีและใหญ่ตามที่คุณต้องการ 

  1. รู้จักโครงสร้างร่างก่ายของตัวเอง ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณจัดโปรแกรมการออกกำลังกาย และโปรแกรมอาหารให้เหมาะสมกับโครงสร้างร่างกาย โดยทั่วไปจะมี 3 แบบ คือ  1. Ectomorph (รูปร่าง ผอมบาง)  2. Mesomorph (รูปร่าง ธรรมดา ไม่อ้วนหรือ ไม่ผอม) 3. Endomorph (รูปร่าง อ้วนท้วม) 
  2. ฝึกหนักจนเกินไป อย่าเน้นออกกำลังกายและหักโหมกับการยก weight มากจนเกินไป จนลืมเรื่องอาหารและการพักผ่อนเพราะการยก weight เป็นแค่ครึ่งเดียวของการสร้างกล้ามเนื้อ อีกครึ่งหนึ่ง ก็คือ ช่วงการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ถ้ากล้ามเนื้อไม่ได้รับอาหารหรือการพักผ่อนที่เพียงพอ ในขณะที่คุณหักโหมกับการยก weight กล้ามเนื้อจะหายไปแทนที่จะเพิ่มขึ้น การฝึกหนักเกินไม่ดีต่อการสร้างกล้ามเนื้อและไม่ดีต่อสุขภาพด้วย ซึ่งคุณสามารถรู้ได้ว่า เมื่อคุณกำลังออกกำลังกายอย่างหักโหมเกินไป คุณจะรู้สึกเหนื่อยล้า หลับยาก และเป็นหวัดบ่อยหรือ รู้สึกเครียดง่าย
  3. ออกกำลังกล้ามเนื้อมัดใหญ่ไม่พอ คุณต้องเล่นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยเฉพาะ ขา และแผ่นหลัง ให้มากกว่า หน้าแขนหรือไหล่ คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในยิมจะเน้นออกกำลังกายที่ หน้าอกและแขนกันมาก ในขณะที่ไม่สนใจกล้ามเนื้อส่วนล่าง อย่างขาเลย อย่าลืมนะครับว่ากล้ามเนื้อส่วนบนจะเติบโตไม่ได้เลยถ้ากล้ามเนื้อส่วนล่างอย่าง ขา ไม่โต เพราะร่างกายเราจะพยายามรักษาสมดุลตลอด ดังนั้นร่างกายเราจะไม่ยอมให้กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น แขน หรือ ไหล่ ใหญ่กว่ากล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่าง หลัง ขา หรือ หน้าอก 
  4. เลียนแบบวิธีการออกกำลังกายของนักเพาะกายที่อยู่ตามนิตยาสาร หยุดเลียนแบบวิธีการออกกำลังกาย จากนักเพาะกายที่มีชื่อเสียงโดยเด็ดขาด เพราะอย่างแรกเลยครับ คือลักษณะโครงสร้างของกล้ามเนื้อของเหล่านักเพาะกายนั้นเค้าดีมากอยู่แล้ว นอกจากนั้น ยาเสริมกำลังและวิตามินต่างๆ มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือทำให้นักเพาะกายสามารถยกน้ำหนักได้มากขึ้น และนานหลายๆ ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นโครงสร้างกล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน และได้รับอาหารหลัก อาหารเสริมเหมือนกัน คุณจะเล่นตามแบบนักเพาะกายไม่ได้เด็ดขาด คุณจะต้องดูความพร้อมของกล้ามเนื้อ และอาหารว่าคุณจะสามารถเล่นได้เต็มที่ขนาดไหน
  5. ฝึกให้หนักแต่ใช้เวลาให้น้อย เวลายก Weight ควรจะใช้เวลาเล่นไม่เกิน 1 ชั่วโมง ถ้าอยู่ในยิมนานกว่านั้น นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้ออกกำลังกายหรือยก weight หนักเท่าที่ควร การที่จะสามารถสร้างกล้ามเนื้อให้ใหญ่ได้ คุณจำเป็นที่จะต้องเล่นให้หนักและ สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ เพราะกล้ามเนื้อต้องการการท้าทายตลอดเวลา
  6. กิน กิน และก็กิน คุณจะไม่มีกล้ามได้เลย ถ้าคุณกินไม่เพียงพอ คุณควรกินให้ได้ทุก 3ชั่วโมง และในแต่ละมื้อควรมีทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไฟเปอร์ และไขมันดี เพราะอาหารจะให้ทั้งพลังงานและเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ คุณต้องการโปรตีน 1.52 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ ใน 1 วัน ควรจะกินอาหาร 4-5 มื้อต่อวัน และมีอาหารเสริมระหว่างมื้อ ที่สำคัญอีกอย่างคือ ต้องดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 8แก้ว เพราะน้ำจะช่วยระบบเผาผลาญให้ทำงานดีมากขึ้น
  7. เปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายเดือนละครั้ง เพราะร่างกายเราเป็นกลไกลที่สลับซับซ้อนและฉลาดมาก เราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการเล่น เพื่อไม่ให้ร่างกายได้จดจำลักษณะการเล่นหรือยก weight จนเกิดอาการเคยชิน ซึ่งจะเป็นเหตุผลที่จะทำให้กล้ามเนื้อไม่พัฒนา เพราะกล้ามเนื้อต้องการการท้าทายอยู่ตลอด ดังนั้นการเปลี่ยนท่าเล่นทุกๆ 1เดือนจึงจำเป็นมาก