Steroid แบ่งเป็นทั้งหมด 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

          กลุ่มที่ 1 : Corticosteroid เป็นพวกแก้อักเสบที่ใช้ในการรักษาการบาดเจ็บ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า "Cortisone" ซึ่งเป็น Steroid ชนิดผงที่ผสมน้ำกลั่นเพื่อฉีดเข้าเฉพาะจุดกล้ามเนื้อที่เจ็บและอักเสบจะทำให้อาการหายเร็วขึ้นมาก อย่างไรก็ตามการใช้ Cortisone ซ้ำๆบ่อยๆ อาจทำให้เอ็นมีความอ่อนแอลงและฉีกขาดได้ง่ายขึ้น 

          อีกอย่างคือ Cortisone ไม่ใช่ steroid ที่สามารถสร้างกล้ามเนื้อหากแต่เป็น Steroid ที่ทำลายกล้ามเนื้อ หมายความว่าหากขาคุณไม่ได้เป็นอะไรแล้วคุณฉีด Cortisone ทุกๆวันเข้าไป กล้ามเนื้อขาคุณก็จะเล็กลงและบางประเภทรักษาพวกอาการเป็นผื่น(นิยมใช้ในหมู่แพทย์ผิวหนัง) Steroid กลุ่มนี้หากเราทานหรือฉีดเป็นเวลานานๆก็จะมีผลทำให้กล้ามเนื้อเล็กลง แถมยังมีเรื่องสิวและเรื่องภูมิคุ้มกันลดลงเป็นของแถมนะครับ ฉะนั้นแพทย์จะค่อนข้างระมัดระวังและมักใช้เป็นตัวเลือกสุดท้ายก่อนการผ่าตัดผ่านกล้อง

          พูดถึงเรื่องนี้ผมก็มีเรืองที่ฟังดูแล้วตลกนิดนึงมาเล่าให้ฟังครับ มีอยู่วันนึงผมปวดข้อสะโพกมากและผมขอให้หมอกระดูกและข้อฉีด Cortisone ให้ผม ซึ่งหมอคนนี้รักษาคนไข้มามากกว่า 10 ปี หมอได้พูดกับผมอย่างเสียงแข็งว่า "เอ้ คุณทำไมเล่นกล้ามเองไม่ได้ ผมรู้คุณไม่ได้เป็นอะไรหรอกแต่แค่จะให้ผมฉีดสเตอรอยด์เร่งกล้ามเนื้อให้" โอ้โห!! ผมฟังแล้วพูดอะไรไม่ออก วันนั้นผมมีทางเลือกสองทางคือ 1.คืออธิบายเกี่ยวกับ Steroid ให้หมอคนนี้เข้าใจว่า Steroid ตัวนี้ไมได้เป็น Steorid สร้างกล้ามเนื้อแต่อย่างใดและอาจต้องอธิบาย Steroid แต่ละประเภทให้คุณหมอฟังกับทางที่สองคือไม่พูดอะไรแค่ยิ้มด้วยความไม่พอใจแล้วเดินออกมา ผมเลือกทางที่สองครับเพราะหมอคนนี้มีอีโก้สูงมาก อันนี้เป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับหมอที่ทุกคนเข้าใจผิด ผมไม่ได้จะบอกว่าผมเก่งกว่าหมอ สิ่งที่ผมงงเกี่ยวกับหมอคนนี้คือเขาเป็นหมอกระดูกและข้อซึ่งเท่าที่รู้คือต้องเรียนเป็นเฉพาะทางและน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับ Steroid เยอะกว่านี้เท่านั้นแหละครับ นอกเรื่องไปเยอะครับ ขึ้น Steroid กลุ่มที่สองเลยดีกว่า

          กลุ่มที่ 2 : กลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Estrogen และ Progesterone ฮอร์โมนพวกนี้จะพบได้ในพวกยาคุมทั้งหลายครับ Estrogen ทำให้เกิดการสะสมไขมันและอาการบวมน้ำ โดยเฉพาะตามหน้าอกและสะโพก ฉะนั้นในความคิดผมคงไม่มีใครอยากได้ Estrogen เยอะๆครับเพราะแน่นอนว่ามันไม่ใช่ตัวเลือกทีดีในการสร้างกล้ามสักเท่าไรครับ

          กลุ่มที่ 3 : Androgenic Anabolic Steroid (AAS) มาถึงกลุ่มที่ทุกคนรอคอยครับ เหตุผลที่ไม่เขียนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกเพราะถ้าทุกคนรู้ว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สร้างกล้ามแล้วก็จะไม่อ่านอีกสองกลุ่ม มาแปลกันครับว่าสามคำนี้หมายถึงอะไรครับ เพราะว่าเราคงต้องพบกับศัพท์สามตัวนี้กับอีกเต็มเลย 
          - Androgenic นั้นเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมเกี่ยวกับการแสดงเกี่ยว "secondary male characteristic" แปลเป็นไทยว่า "การแสดงลักษณะความเป็นชายประเภทสอง" นั้นเอง
          ข้อเสียของ Androgen 
          A. ร่างกายจะผลิตเหงื่อ กลิ่นตัว และต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิว ผื่นและอาการแพ้ต่างๆ 
          B. ทำให้ผิวหนังหยาบขึ้นและรูขุมขนกว้างขึ้น 
          C. มีขนเยอะขึ้นตามร่างกาย และใบหน้า 
          D. ผมร่วง 
          E. เสียงมีความลึกขึ้น 

          ที่ลิสมาทั้งหมดนี่เป็นผลเสียของ Androgenic ซึ่งเกิดขึ้นจากการมีระดับ Androgen มากกว่าปกติหรือมาจาก outside sort (ในที่นี้คือฉีดเข้าไป) มาดูว่าการมี Androgen เยอะๆแล้วจะมีอะไรดีเกี่ยวกับการสร้างกล้ามบ้าง

          ข้อดีของ Androgen
          A. เพิ่มพละกำลังและความก้าวร้าว โดยกระตุ้นผ่านทางสมองทำให้เราอาจหงุดหงิดง่าย แต่ข้อดีคือร่างกายสามารถควบคุม CNS(Central Nervous System)ได้ดีขึ้นทำให้เราเรียกจำนวนกล้ามเนื้อที่ทำงานได้มากขึ้น
          B. เพิ่มขนาดและความแน่นของกล้ามเนื้อ
          C. เพิ่มเม็ดเลือดแดงทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
          D. เพิ่มเส้นเลือดให้เด่นชัดขึ้น หรือเราเรียกว่า Vascularity นั่นเอง
          E. สามารถลดไขมันได้ ทั้งนี้ทุกคนอาจสงสัยว่าทำไมการลดไขมันของ Androgen นั้นซับซ้อนมากและมีไม่กี่คนที่รู้แน่ชัดว่าทำไม? แต่ได้มีการบอกว่าเป็นเพราะ Androgen เพิ่ม Beta Adrenergic receptor (BARs) ซึ่งถ้าเราเจาะรายละเอียดเราจะรู้ว่ามี BAR1, BAR2 และ BAR3 ทั้งนี้เราเรียกสามตัวนี้รวมๆว่า "BARs" ตัวนี้มีหน้าที่เกี่ยวกับการเพิ่มการเผาผลาญไขมันและ Androgen นั้นยังลด Alpha adrenergic 2 receptor หรือตัวรับ Alpha adrenergic 2 นั่นเอง ซึ่งในที่นี้คือ Androgen ทำให้ตัวรับตัวนี้ในร่างกายเราทำงานมีประสิทธิภาพน้อยลงซึ่ง Adrenoreceptor นั้นมีเบอร์ 1 และ 2 แต่ Androgen ลดการทำงานของตัวที่สอง ซึ่งตัวที่สองนี้มีหน้าที่ในการต่อต้านการเผาผลาญไขมันแปลว่าถ้าตัวนี้ทำงานน้อยลงเราก็จะลดไขมันได้มากขึ้น

          - Anabolic เป็นรากศัพท์แปลว่าการสังเคราะห์หรือการสร้างนั่นเอง ทั้งนี้คนเราเล่นกล้ามและกินอาหารหลักและเสริมก็เพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะความเป็น Anabolic ตรงเกี่ยวกับ Anabolic นี้ไม่มีข้อเสียครับ Anabolic ถ้ามีเยอะเท่าไรก็สร้างกล้ามได้มากเท่านั้นครับ การสังเคราะห์โปรตีนและการซ่อมแซมก็สูงขึ้น Anabolic นั้นไม่เพิ่มแรงแต่ว่าด้วยขนาดกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้นก็จะทำให้เรายกน้ำหนักได้มากขึ้นเอง Steroid ในฝันที่นักเพาะกายพยายามค้นหา (แค่นักเพาะกายนะครับ ไม่ใช้นักยกน้ำหนัก หรือพวกนักวิ่ง นักเบสบอล) เพราะนักกีฬาพวกนี้บางทีต้องการเพียงพละกำลังหรือความทนทานซึ่งจะเหมาะกับการใช้พวกมี Androgen อยู่บ้างมากกว่าตัวที่มีความเป็น Anabolic สูงๆและเป็น Androgenic น้อยๆนั้นถึงจะเป็นตัวที่นักเพาะกาย ฝันถึงเพราะนักเพาะกายไม่สนใจพละกำลังเมื่ออยู่บนเวทีเพียงแต่วัดกันที่ขนาดของกล้ามเนื้อ Steroid แต่ละตัวนั้นจะมีค่าความเป็น Androgenic และ Anabolic อยู่ไม่มากก็น้อยแล้วแต่ตัว โดยจะใช้ Testosterone ซึ่งมีค่าความเป็น Androgenic = 100 และความเป็น Anabolic = 100 เป็นฐานหรือเกณท์ในการวัดความแรงของ Steroid แต่ละตัว

          Ester คือหางของ Steroid ที่เราใช้กับยาฉีดว่ายาตัวนี้อยู่ในร่างกายนานหรือไม่นานเราจะพูดว่า Ester นั้นสั้นหรือยาว Ester นั้นมีหลายประเภทเราจะพูดถึงคร่าวๆว่ามีประเภทใดบ้าง 
          1. Propionate เป็น Ester ประเภทสั้น หมายความว่าก็ออกจากร่างกายเราค่อนข้างเร็วประมาณ 2 - 3 วัน 
          2. Enanthate เป็น Ester ประเภทยาว ยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจาก 24-48 ชั่วโมงและขึ้นเรื่อยๆ 12 วัน หลังจากนั้นจะอยู่ในร่างกาย 3 อาทิตย์แล้วจึงหมดไป
          3. Cypionate เป็น Ester ประเภทยาว ยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจาก 24 - 48 ชั่วโมงและขึ้นเรื่อยๆ 12 วัน หลังจากนั้นจะอยู่ในร่างกาย 3 อาทิตย์แล้วจึงหมดไป

Support & Tribute by BP Medical